วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

เอกสารประเภทเว็บไซต์

เข้าถึงได้จาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=789215
วันที่สืบค้นข้อมูล20มิถุนายน56

เข้าถึงได้จาก202.143.146.70/nfesattahipUp/2012-02-08-koyja.doc
วันที่สืบค้นข้อมูล20มิถุนายน56

เข้าถึงได้จากhttp://one-lifetrip.blogspot.com/2011/01/blog-post.html
วันที่สืบค้นข้อมูล20มิถุนายน56

บทที่ 1 บทนำ

บทที่ 1
บทนำ

ที่มาและความสำคัญของปัญหา
                ในปัจจุบันสบู่ที่ขายตามท้องตลาดมีการใช้สารเคมี จนไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวหนังในภายหลัง สบู่มีมากมายหลายชนิดให้เราเลือกใช้ตามความเหมาะสม และความชอบส่วนบุคคล จึงไม่มีใครที่จะใส่ใจในรายละเอียดว่าสบู่มีส่วนประกอบใดบ้าง และผลที่จะตามมาหลังใช้จะเป็นอย่างไร
ดังนั้นทางคณะผู้จัดทำจึงสนใจที่จะศึกษาการทำสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน  โดยใช้สมุนไพร คือ กากกาแฟ และ ขมิ้น และมีส่วนผสมหลักในการทำสบู่ คือ กลีเซอรีน จะช่วยดูดความชื้นในอากาศ ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน  อีกทั้งยังสามารถชำละล้างสิ่งสกปรกออกโดยไม่มีสารเคมีหรือสารพิษปนมา และตกค้างอยู่ภายในผิวกาย และทดลองหาค่า pH มาตรฐานในการทำสบู่ คืออยู่ระหว่าง 8-10 ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิวกาย
วัตถุประสงค์
1.ศึกษาวิธีการทำสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน
2.เพื่อทำสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนด้วยตัวเอง
3.ศึกษาสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆที่นำมาเป็นส่วนผสม
สมมติฐาน
1.สบู่ที่ทำมาจากกลีเซอรีน ผสมสมุนไพรต่างชนิดกันสามารถทำความสะอาดผิวกายต่างกัน
                2.สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ทำเอง มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ 8-10 หรือเป็นด่าง
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น:            สบู่กลีเซอรีนผสมสมุนไพรต่างชนิด                                                                                      ตัวแปรตาม:       ความสะอาดของผิวกาย , ค่า pH                                                                                        ตัวแปรควบคุม:     ปริมาณสมุนไพร ปริมาณกลีเซอรีน และอุณหภูมิ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
                1.ได้สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวกาย
2.ได้ฝึกทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
3. เพิ่มคุณค่าให้กับสมุนไพรที่นำมาใช้

2
ขอบเขตของโครงงาน
ศึกษาวิธีการทำสบู่จากกลีเซอรีน ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว โดยการนำสมุนไพรธรรมชาติมาผสม คือ ขมิ้นและ กากกาแฟมาใช้ในการทดลอง
บ้านของ ด.ญ.ศิริรัตน์ ชูน้ำเที่ยง บ้านเลขที่68/37 หมู่ 10 ซอย 4 ซอยเอกชัย 10/1 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150
ระยะเวลา
            โดยการศึกษาทดลองและประดิษฐ์ใช้เวลาในการศึกษาทดลองและประดิษฐ์ประมาณวันที่
31กรกฎาคม ถึง 5 สิงหาคม 2556
สถานที่
บ้านของด.ญ.ศิริรัตน์ ชูน้ำเที่ยง บ้านเลขที่68/37 หมู่ 10 ซอย 4 ซอยเอกชัย 10/1 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150
นิยามศัพท์เชิงปฏิบัติการ
ความสะอาดของผิวกาย  สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนธรรมชาติที่ทำขึ้น ทำมาจากกลีเซอรีนที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ก็เพื่อที่จะไม่ให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย จะได้สบู่สมุนไพรหลากหลาย1รูปแบบ และหลากหลายชนิด ซึ่งขึ้นอยู่ สบู่กับสมุนไพรชนิดต่างๆที่นำมา ผสมกับกลีเซอรีน ทำให้ได้สบู่ตามที่เราต้องการ โดยสบู่ที่ได้มานั้นจะไม่มีสารพิษหรือสารเคมีใดๆที่จะตกค้างภายในร่างกายของเรา เมื่อเรานำสบู่ที่ทำมาใช้ เพราะส่วนผสมที่นำมาทำนั้น  ล้วนแล้วแต่ทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น ทั้งสมุนไพร ทั้งสบู่และทั้งกลีเซอรีน โดยค่า pH จะเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพรรณของเรา กลีเซอรีนธรรมชาติสามารถนำมาผสมกับสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ได้เพื่อให้ได้สบู่สมุนไพรตามความต้องการของผู้ใช้โดยที่ปราศจากสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว     ผิวหนังของคนเราต่างกันเราจึงเลือกใช้สบู่ที่ต่างชนิด ดังนั้น  เราจึงสามารถทำเองได้โดยใช้กลีเซอรีนจากธรรมชาติ สมุนไพรที่ใช้ก็หาได้ง่ายในท้องถิ่นราคาไม่แพงและยังให้ประโยชน์ต่อผิวเราได้ดีอีกด้วย การทำความสะอาดร่างกายหรือผิวกายให้สะอาดเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เท่าทุกวันนี้ เพราะสิ่งสกปรกและคราบมันต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่อาจรวมตัวกับน้ำได้ สังเกตง่าย ๆ เมื่อเราเทน้ำผสมน้ำมัน มันจะแยกชั้นกันอย่างชัดเจน ร่างกายของเรานั้น มักจะผลิตน้ำมันออกมาตลอดเวลา การอาบน้ำธรรมดา ก็เป็นเพียงการชะล้างฝุ่นออกไปจากร่างกาย แต่ก็ไม่ได้สะอาดหมดจดจริงอยู่ที่ว่าจะสะอาดมากหรือน้อย สบู่บางชนิดมีการระคายเคืองในบางคน และการสะสมสารเคมี ไว้ที่ผิวกาย ทุกวัน ๆ มาจนถึงวันนี้ เราก็ไม่รู้ว่าสะสมมามาก-น้อยเท่าไหร่ สบู่ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อผิว ซึ่งนอกจากจะทำให้สบู่ที่ได้ทำความสะอาดผิวได้ดีแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวได้อีกด้วย สบู่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวัน เราก็ต้องการสบู่ที่มีคุณภาพและปลอดภัย

บทที่ 2 ทฤษฏีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2
ทฤษฏีและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

การศึกษาเรื่อง สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน ประกอบด้วยเอกสารและงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
การทำสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนธรรมชาติ โดยสบู่มีหลากหลายรูปแบบ หลายชนิด ขึ้นอยู่กับสมุนไพรที่นำมาผสมกับกลีเซอรีน ทำให้ได้สบู่ตามที่ต้องการ โดยผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาวิธีการทำสบู่จากกลีเซอรีน ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว โดยการนำสมุนไพรธรรมชาติมาผสม คือ ขมิ้นและ กากกาแฟมาใช้ในการทดลองและทำการประดิษฐ์ขึ้น

สบู่ (soap)คือสารเคมีที่เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ, (NaOH,) และน้ำมันที่มาจากสัตว์หรือพืช มีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน) กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือ มีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 ใช้ชำระล้างร่างกายควบคู่กับการอาบน้ำ ทำมาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้ำหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ

สบู่ก้อน คือส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 (ในเอกสารจดแจ้งของ อ.ย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามีค่า  pH ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ เบส เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ประมาณ 5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่เอาไว้อย่างน้อย 15-30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม
กรด(ไขมัน)และเบส(ด่าง)ที่นำมาทำสบู่
ไขมันแต่ละชนิดประกอบด้วยกรดไขมันมากกว่า 1 ชนิด ตามธรรมชาติกรดไขมันเหล่านี้จะไม่อยู่อิสระ แต่รวมตัวกับสารกลีเซอรอลในไขมันอยู่ในรูปกลีเซอไรด์ เมื่อด่างทำปฏิกิริยากับกรดไขมัน กรดไขมันจะหลุดออกจากกลีเซอไรด์ รวมตัวเป็นสบู่ สารที่เกาะอยู่กับกรดไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นกลีเซอรีน ปฏิกิริยาของ กรดไขมันแต่ละชนิดเมื่อรวมตัวกับด่างแล้ว จะให้สบู่ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น กรดลอริก (lauric acid) มีมากในน้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันที่ทำปฏิกิริยากับด่างแล้วให้สารที่มีฟองมาก
5
กลีเซอรีน คือ แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งมีสูตรทางเคมี C3H5(HO)3 มีลักษณะข้นและใส  ไม่มีสี เป็นผลพลอยได้จากกระบวนทำสบู่ โดยที่ด่างจะผสมกับไขมันจากสัตว์และพืช ผู้ผลิต สบู่จะแยกกลีเซอรีนออกมาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการทำโลชั่นและครีมได้อีก กลีเซอรีน   เมื่ออยู่ในโลชั่นจะให้ผลดีมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์และในน้ำ  และยังนำไปใช้ผลิตไนโตรกลีเซอรีนและขนม ใช้ถนอมผักและผลไม้ รวมทั้งแช่ตัวอย่างทดลองในห้องแล็ป มองหาส่วนผสมที่เป็นกลีเซอรีนได้จากบรรดาโลชั่นที่วางจำหน่ายตามชั้นในร้านขายยา หรือร้านงานฝีมือที่ขายผลิตภัณฑ์จากสบู่
ขมิ้น เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิง มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าขมิ้นชันมีสีเหลืองเข้ม จนสีแสดจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบรูปเรียวยาวปลายแหลมคล้ายใบพุทธรักษา ดอกออกเป็นช่อ มีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ออกตรงกลางระหว่างใบคู่ในสุดดอกสีขาว มีแถบสีเหลืองคาด มีกลีบประดับสีขาวหรือเขียว
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
 เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญ เป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้ม ที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcuminจากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดี น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน มีความปลอดภัยสูง
กากกาแฟ
ทุกครั้งที่ชงกาแฟจะมีกากกาแฟเหลืออยู่ และคนส่วนมากจะทิ้งไปเพราะไม่รู้ว่ากากกาแฟเหล่านี้มีประโยชน์อะไรบ้างซึ่งกากกาแฟเหล่านี้สามารถใช้สำหรับขัดผิว ให้ผิวขาวได้ดีด้วย เพราะกากกาแฟจะไปช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
นิยาม คือ สบู่สมุนไพรที่ทำขึ้น ทำมาจากกลีเซอรีนที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนก็เพื่อที่จะไม่ให้ มีสารพิษตกค้างในร่างกาย
สบู่ธรรมชาติ  คือ สบู่ที่เกิดจากกระบวนการซาปอนนิฟิเคชั่น (Saponification)ของไขมัน         หรือน้ำมัน จากพืชและสัตว์ที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารละลายด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์)
จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นของแข็ง  ลื่น  มีฟอง  สามารถละลายและล้างออกด้วยน้ำ  สบู่ธรรมชาติไม่ถูกสกัดเอากลีเซอรีนออก  ไม่มีการเติมสารเคมี  สารเกิดฟอง (detergent)  แต่อาจเติมสมุนไพร  หรือน้ำมันหอมระเหยลงไปเท่านั้น  คุณสมบัติของสบู่ คือ ใช้ทำความสะอาดชำระล้างสิ่งสกปรก  หรือเป็นสารช่วยลดแรงตึงผิว (surfactant)

ปฏิกิริยาการเกิดสบู่ ดังนี้
ไขมันหรือน้ำมัน   +   (ด่าง และ น้ำ)             สบู่   +  กลีเซอรีน
       Fat/oil                  (lye + water)             Soap +  Glycerine

Natural Hot-process soap สบู่ธรรมชาติผลิตด้วยกระบวนการร้อน
กรรมวิธีการผลิตสบู่แนวนี้  คือการให้ความร้อนจากภายนอกเข้าไปสนับสนุนให้เกิดสบู่สำเร็จรูป ตามลักษณะที่ต้องการแล้วเติมแต่งกลิ่นและสีที่กำหนดไว้  ก็จะได้สบู่ที่มีความสวยงาม  สดใสแวววาว  มีเสน่ห์น่าใช้ เปรียบเทียบได้กับการทานข้าวขาวหอมมะลิ นั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้วการผลิตสบู่แนวนี้มีความยุ่งยากซับซ้อนพอสมควรหากเริ่มตั้งแต่ต้น  คือต้องผ่านกรรมวิธี Cold-process ก่อน แล้วแยกส่วนที่เป็น glycerin ออกมา   ซึ่ง glycerin ก็ถือได้ว่าเป็นสบู่สำเร็จรูปเบื้องต้น  สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย   แต่เมื่อต้องการความสวยงามและเสน่ห์ที่น่าใช้  ก็จำเป็นต้องนำ glycerin มาผ่านกระบวนการความร้อนที่จัดเตรียมไว้  เมื่อละลายจนได้ที่จึงเติมแต่งสีสัน  เพิ่มกลิ่นด้วย Fragrance (น้ำหอมเคมีสังเคราะห์)  เนื่องจาก Essential oil มีราคาสูงและจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกความร้อน  จึงไม่เป็นที่นิยมเชิงพาณิชย์ความแตกต่างของสบู่ Natural Hot-process soap  คุณภาพสูงและต่ำ  อาจเกิดจากการใช้ glycerin คุณภาพต่ำ ไม่สะอาดและมีจุดเดือดที่สูง  ซึ่งส่วนใหญ่มักผลิตจากไขมันสัตว์ที่ได้จากโรงฆ่าสัตว์  ในประเทศ เพราะมีราคาต่ำกว่า glycerin ที่ผลิตจากพืชที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  นอกจากราคาที่แตกต่างแล้ว  ประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยก็แตกต่างกัน
อย่างมากด้วย  ผู้ผลิตสบู่แนวนี้ที่ไม่เน้นคุณภาพจึงมักใช้ Glycerin คุณภาพต่ำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากกว่าหากเปรียบเทียบในเชิงความเป็นธรรมชาติและประโยชน์แล้ว  สบู่ Natural Hot-process soap  นี้ มีความเป็นธรรมชาติและประโยชน์น้อยกว่า Natural Cold-Process soap  เนื่องจากความร้อนที่นำเข้ามาเติมแต่งในกระบวนการผลิตจะสลายคุณค่าทางธรรมชาติออกไป   สบู่แนวนี้จึงไม่สามารถออกแบบหรือเติมแต่งสรรพคุณพิเศษใดๆ ได้อีก
Natural Cold-Process soap สบู่ผลิตด้วยกระบวนการเย็นโดยธรรมชาติ
กรรมวิธีการผลิตรูปแบบนี้  เป็นกระบวนการผลิตสบู่ที่คงความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุดเหมือนเมื่อพันปีที่แล้วที่เกิดสบู่ขึ้นบนโลกครั้งแรกการผลิตจะเริ่มจากการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมี กรด (acid)  คือ น้ำมันที่มีคุณประโยชน์ต่างๆ  ทั้ง hard oil ซึ่งทำหน้าที่สร้างรูปและตัวตนให้กับสบู่ ในฐานะ  based oil เช่น น้ำมันมะพร้าว  น้ำมันปาล์มExotic oil เช่น น้ำมันรำข้าว  น้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นน้ำมันหลักของความต้องการที่จะให้สบู่นั้นออกมาแล้วมีประโยชน์ด้านใดบ้างส่วนด่าง (lie) คือตัวประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยา saponification ซึ่งในปัจจุบันนิยมการใช้ sodium hydroxide  กรณีต้องการผลิตสบู่ก้อน หรือ potassium hydroxide กรณีต้องการผลิตสบู่เหลว  แทนการใช้ขี้เถ้าจากการเผาไหม้ มาผสมกับน้ำสะอาดเหมือนอดีต   ทั้งนี้เนื่องจากความไม่เสถียรของค่าความเป็นด่างและความไม่สะดวกในการจัดหาซึ่ง sodium hydroxide  และ potassium hydroxide วัตถุดิบทั้งสอง  คือ น้ำเกลือที่ทำให้มีความเข้มข้นสูงด้วยเทคนิคด้านประจุไฟฟ้า  จึงถือได้ว่ายังมีความเป็นธรรมชาติเพียงแต่มีความเข้มข้นมาก เกินกว่าที่ผิวมนุษย์จะรับได้การเตรียมด่างต้องใช้ sodium hydroxide  หรือ potassium hydroxide ผสมกับน้ำอย่างถูกต้องตามหลักความปลอดภัย  ได้แก่ วิธีการผสม  และอัตราส่วนในการผสม  ซึ่งจะต้องมีความแม่นยำและเที่ยงตรงด้วยการคำนวณหาค่า SAP Value ที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้ได้สบู่ที่ดีหรือเหมาะสมที่สุดในแต่ละสูตรจากนั้น เราสามารถเพิ่มเติมคุณประโยชน์จากธรรมชาติเข้าไปในตัวสบู่ได้ คือเพิ่ม active ingredient ต่างๆ ตามที่ต้องการที่จะให้สบู่นั้นทำหน้าที่  เช่น นม  น้ำผึ้ง  น้ำมันเปลือกมังคุด  ผงสาหร่าย  ผงโคลน ฯลฯ  แล้วเติมแต่งกลิ่นพร้อมประโยชน์ด้วยน้ำมันหอมระเหยตามต้องการ  แต่ต้องมีการคำนวณและประมาณอัตราส่วนที่ใช้อย่างพอเหมาะด้วยสุดท้ายคือการผสมผสานทุกส่วนเข้าด้วยกันจนข้นได้ที่แล้วนำเข้าเก็บไว้ ที่เรียกว่า ageing จนกว่าสบู่จะคลายฤทธิ์และแปรสภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการอาบน้ำจะเห็นได้ว่าขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งสิ้น  โดยเราไม่ต้องนำความร้อนจากภายนอกไปเร่งปฏิกิริยา saponification เลย  จึงเป็นที่มาของชื่อ Natural Cold-process soap  ซึ่งสบู่แนวนี้เปรียบเสมือนเราเลือกทานข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีหรือเติมแต่ง  เช่น  ข้าวกล้อง  นั่นเองในการจัดทำโครงงาน เรื่องสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน ในครั้งนี้ ได้ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับสมุนไพรใกล้ตัว ได้แก่  ขมิ้นชัน และกากกาแฟ  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ทำสบู่ใช้เอง 

สบู่ทำเองเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยมและทำง่ายมาก เพียงมีกลีเซอรีนและเตาไมโครเวฟ ก็ลงมือได้เลย ตัดกลีเซอรีนที่ส่วนใหญ่ จะมาขายเป็นท่อนๆ ให้เป็นลูกเต๋าขนาด 2 นิ้ว หย่อนกลีเซอรีนหลายๆก้อนใส่ภาชนะแก้ว เอาเข้าเตาไมโครเวฟไฟปานกลาง เอาออกมาดูทุกๆ 30 วินาที จนกว่าจะละลายใช้ได้ ถึงตรงนี้ให้เติมสีหรือกลิ่นที่คุณชอบ จากนั้นรินกลีเซอรีนเหลวลงในพิมพ์สบู่หรือพิมพ์ขนม ถ้าไม่มีใช้ถ้วยพลาสติกโพลีสไตริน เทลงไปซัก 3 ใน 4 นิ้วจากก้นถ้วย ทิ้งให้แข็งตัวราวครึ่งชั่วโมง

บทที่ 3 วิธีดำเนินการทำโครงงาน

บทที่ 3
วิธีดำเนินการทำโครงงาน
3.1 วัสดุ
วัสดุในการทำสบู่
                1.กลีเซอรีนแบบใสชนิดแข็ง  1กิโลกรัม
2.ผงขมิ้น  1  ถ้วย              
3.กากกาแฟ  1  ถ้วย
                4.น้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม  1 ขวด
3.2 เครื่องมือและอุปกรณ์
เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำสบู่
1.ถ้วยสแตนเลส      1 ใบ    
                2.เตาแก๊ส1 อัน                    
3.แท่งแก้วคนสาร1 อัน
                4.แม่พิมพ์สบู่       2 อัน     
5.บีกเกอร์   1 ใบ
6.หลอดฉีดยา 1 หลอด
7.ช้อน 1 คัน

3.3วิธีดำเนินการ
ตอนที่1 วิธีการทำสบู่
1.แบ่งกลีเซอรีนจำนวน 250 กรัม นำไปใส่ในถ้วยสแตนเลส แล้วนำไปต้มที่เตาแก๊ส ใช้ไฟอ่อนๆ    
2.รอกลีเซอรีนละลาย ใช้ช้อนตักฟองออก                                                                                        
3.เมื่อกลีเซอรีนละลายหมดแล้วใส่สมุนไพรลงไป คือ ผงขมิ้น3-4ช้อนชา แล้วคนให้เข้ากัน               
4.ปิดไฟ นำถ้วยสแตนเลสออกมาวาง ขณะนี้ใช้แท่งแก้วคนสารคนตลอดเพื่อไม่ให้กลีเซอรีนแข็งตัว 
5.ตักใส่แม่พิมพ์สบู่ รอสบู่แข็งตัวประมาณ 30 นาที                                                                            
6.เมื่อสบู่แข็งตัวดีแล้วจึงแกะออกจากแม่พิมพ์แล้วเก็บให้มิดชิดอย่าให้โดนลม                                
7.นำสบู่ที่ได้ใส่บรรจุภัณฑ์ที่ได้เตรียมไว้แล้ว                                                                                                
8.ได้สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน
 (*ทำซ้ำอีกรอบโดยเปลี่ยนขั้นตอนที่ 3 คือเปลี่ยนสมุนไพรที่ใส่จากขมิ้นเป็นกากกาแฟ)
ตอนที่ 2 ตรวจสอบหาค่า pH ของสบู่
วัสดุอุปรณ์ในการหาค่า pH
1. กระดาษยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ 2 แผ่น
2.น้ำ                                                      1  ช้อนชา            
3.บีกเกอร์                                             1 ใบ
4.แท่งคนสาร                                       1 อัน

5.ถ้วย                                                     1 ใบ

บทที่ 4 ผลการทดลองและวิเคราะห์ผล

บทที่ 4
ผลการทดลองและวิเคราะห์ผล

จากการวิจัยเรื่อง สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน ผลปรากฏว่า สบู่ที่ทำมาจากกลีเซอรีน ผสมสมุนไพรต่างชนิดกัน คือ กากกาแฟ และ ขมิ้น สามารถทำความสะอาดผิวกายต่างกันเพราะสมุนไพรที่นำมาผสมแตกต่างกัน มีสรรพคุณต่างกัน มีความหอมแตกต่างกันตามที่นำสมุนไพรมาผสม และสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ทำเอง มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้ เท่ากับ 8 (หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pH เท่ากัน ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพรรณของเรา

การวิเคราะห์ข้อมูล
ในทำวิจัยครั้งนี้  คณะผู้จัดทำได้ทำการทดลองและประดิษฐ์ด้วยตนเอง โดยศึกษาวิธีการทำสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน และศึกษาสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆที่นำมาเป็นส่วนผสมคือ กากกาแฟ และ ขมิ้นซึ่งเราจะเปรียบเทียบค่าpH ตามมาตรฐานและนำมาเปรียบเทียบกับค่า pHของสบู่ทั้งสองชนิดที่วัดได้ ดังนี้

ชนิดของสบู่จากกลีเซอรีน
ค่า pH ตามมาตรฐาน
ค่า pH ที่วัดได้
สบู่กลีเซอรีนผสมขมิ้น
8-10
8
สบู่กลีเซอรีนผสมกากกาแฟ
8-10
8
(1)       ตารางแสดงบันทึกผลการทดลอง

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

            เมื่อเรานำเอาสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่เราได้ทดลองผลิตขึ้นนั้น ไปตรวจสอบหาค่า pH ตามมาตรฐานการทำสบู่ ผลปรากฏว่า สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ผสมสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด มีค่า pH เท่ากับ8 ซึ่งตรงตามมาตรฐานการทำสบู่ และสามารถนำไปทำความสะอาดร่างกายได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวกาย

บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

     สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1.สบู่ที่ทำมาจากกลีเซอรีน ผสมสมุนไพรต่างชนิดกัน สามารถทำความสะอาดผิวกายต่างกัน
สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนไม่เป็นอันตรายต่อผิว เพราะนำสมุนไพรธรรมชาติมาผสม คือ ขมิ้นและ
กากกาแฟมาใช้ในการทดลองและทำการประดิษฐ์ขึ้น
2.สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ทำเอง มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้ เท่ากับ 8 (หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pH เท่ากัน ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพรรณของเราจึงสามารถนำไปทำความสะอาดร่างกายได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวกาย
อภิปรายผลการทดลอง
จากที่เราได้ทำการศึกษาและทดลองและได้ประดิษฐ์สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ทำเองนั้น คือ สบู่กากกาแฟกับสบู่ขมิ้น มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้ เท่ากับ 8 (หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pH เท่ากัน ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพรรณของเราดังนั้นสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนที่ผลิตขึ้นนั้นสามารถทำความสะอาดผิวกายได้ เพราะไม่มีอันตรายและมีค่า pH ที่ตรงตามมาตรฐาน ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

ข้อเสนอแนะ
1.             ใช้แอลกอฮอล์  95ฉีดหลังจากเทสบู่ลงแบบพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศ
2.             นำสมุนไพรชนิดอื่นที่ชื่นชอบมาผสมลงในสบู่ เช่น  มะเฟืองมะขามเปียกมะนาวมะกรูดเป็นต้น
3.             สบู่ที่แกะออกจากแม่พิมพ์แล้วไม่ควรปล่อยให้โดยลมเพราะจะทำให้สบู่มีฟองน้อยลงจึงควรรีบห่อบรรจุภัณฑ์ทันที